articleคลอเฟนิรามีน

คลอเฟนิรามีน

ยาแก้แพ้ Chlorpheniramine เป็นยาต้านฮีสตามิน antihistamine ซึ่งเป็นสารเคมีที่หลั่งออกมาหลังจากเกิดภูมิแพ้ ฮีสตามินนี้จะทำให้เกิดอาการจาม คัน น้ำมูกไหล น้ำตาไหล ดังนั้นยาแก้แพ้ก็จะบรรเทาอาการเหล่านี้

ยาแก้แพ้ได้ถูกนำมาใช้ในการรักษาอาการคัดจมูก น้ำมูกไหล เคืองตาน้ำตาไหล ที่เกิดจากหวัดและโรคภูมิแพ้

ยานี้เป็นสารต้านฮิสตามีน สำหรับบรรเทาอาการแพ้ต่าง ๆ เช่น ไข้ละอองฟาง เยื่อจมูกอักเสบเนื่องจากการแพ้ ลมพิษ การแพ้อาหารและยา และยังใช้ลดน้ำมูกไหล อาการเนื่องจากหวัด บรรเทาอาการคันจากสาเหตุต่าง ๆ

  • ใช้เพื่อช่วยบรรเทาอาการแพ้ไข้ละอองฟาง Hey fever(มีสาเหตุจากการแพ้สารพวกละอองเกสรดอกไม้ ฝุ่นละออง หรือสารอื่นในอากาศ)
  • บรรเทาอาการแพ้ และหวัด ได้แก่ อาการจาม น้ำมูกไหล ตาแดง คันที่ตาและน้ำตาไหล คันจมูกและลำคอ

วิธีการใช้ยา

  • โดยทั่วไปยานี้ควรใช้ในผู้ใหญ่และเด็กอายุ 2 ปีขึ้นไป ไม่ควรใข้ในเด็กอายุต่ำกว่า 2 ปี เพราะอาจมีอาการข้างเคียงที่รุนแรงได้
  • การใช้ยาในเด็กอายุ 2-6 ปี จะต้องอยู่ภายใต้การดูแลของแพทย์ และต้องใช้ยาอย่างระมัดระวังในเด็กอายุ 6-11 ปี
  • ยานี้อยู่ในรูปแบบยาเม็ดสำหรับรับประทาน โดยทั่วไปใช้รับประทานทุก 4-6 ชั่วโมง โดยห้ามใช้ยาในขนาดที่มากหรือน้อยกว่าที่ระบุ และหากมีข้อสงสัยให้สอบถามแพทย์หรือเภสัชกร
  • ให้ดื่มน้ำ 1 แก้วหลังจากรับประทานยา
  • ในกรณีที่รับประทานยานี้แล้วรู้สึกไม่สบายท้อง อาจรับประทานยาพร้อมอาหารหรือนมเพื่อลดอาการดังกล่าว

ขนาดของยาที่ใช้ในการรักษา

  • โดยทั่วไปรับประทานครั้งละหนึ่งเม็ด (4 มก.) วันละ 1-4 ครั้ง ตามอาการ
  • เด็กอายุ 6-12 ปี รับประทานเพียงครึ่งเม็ด (2 มก.)

รูปแบบของยา

  • ยานี้มีขายในรูปยาเม็ดขนาด 4 มก
  • ยาน้ำเชื่อมความแรง 2 มก./5 มล
  • ยาฉีดความแรง 10 มก./มล

สิ่งที่ควรแจ้งแพทย์หรือเภสัชกรทราบ 

  • ประวัติแพ้ยา chlorpheniramine (maleate) หรือส่วนประกอบใดๆ ในยานี้ รวมถึงประวัติการแพ้ยาอื่นๆ
  • ใช้หรือกำลังจะใช้ ยาอื่นๆ ทั้งยาที่แพทย์สั่งจ่ายและยาที่ใช้เอง วิตามิน อาหารเสริม และสมุนไพร
  • มีหรือเคยมีโรคหืด ถุงลมโป่งพอง หลอดลมอักเสบเรื้อรัง หรือโรคปอดอื่นๆ โรคต้อหิน แผลในกระเพาะอาหาร ความผิดปกติของระบบทางเดินหายใจ ปัสสาวะลำบาก โรคหัวใจ ความดันโลหิตสูง ลมชัก ต่อมไทรอยด์ทำงานมากผิดปกติ ต่อมลูกหมากทำงานผิดปกติ โรคมะเร็งหรือความผิดปกติอื่นๆ เกี่ยวกับเม็ดเลือด ภาวะหยุดหายใจขณะนอนหลับ โรคตับ โรคไต โรคเบาหวานและโรคเรื้อรังอื่นๆ
  • ตั้งครรภ์ วางแผนจะตั้งครรภ์ หรือให้นมบุตร
  • หากท่านกำลังจะเข้ารับการผ่าตัด หรือการทำทันตกรรมใดๆ ควรแจ้งให้แพทย์หรือทันตแพทย์ทราบว่าท่านกำลังใช้ยานี้อยู่ 

อาการอันไม่พึงประสงค์จากการใช้ยา

อาการอันไม่พึงประสงค์ที่ต้องแจ้งแพทย์หรือเภสัชกรทันที

มีดังนี้ มีปัญหาในการมองเห็น เช่น มองเห็นไม่ชัด ปัสสาวะลำบาก ปัญหาในการหายใจ อาการกระวนกระวาย ตื่นเต้น วิตกกังวล นอนไม่หลับ (พบมากในเด็ก) หน้ามืด วิงเวียนคล้ายจะเป็นลม หัวใจเต้นไม่สม่ำเสมอ ใจสั่น หรือเจ็บแน่นหน้าอก การชัก การเกร็งของกล้ามเนื้อและใบหน้า

อาการอันไม่พึงประสงค์อื่นที่อาจเกิดระหว่างใช้ยา

หากเป็นต่อเนื่อง หรือ รบกวนชีวิตประจำวัน ให้ แจ้งแพทย์หรือเภสัชกรทราบ มีดังนี้ ง่วงซึม วิงเวียนศีรษะ ยานี้ทำให้ปากแห้ง จมูกและคอแห้งได้ แนะนำให้อมลูกกวาดที่ไม่หวานนัก หรือดื่มน้ำ ปวดศีรษะ เบื่ออาหาร ไม่สบายท้อง คื่นไส้ อาเจียน ท้องเสีย หรือท้องผูก

ข้อควรระวัง

  • สตรีมีครรภ์ โดยเฉพาะระหว่าง 3 เดือนแรก หรือกำลังให้นมบุตร
  • ไม่ควรดื่มแอลกอฮอล์หรือรับประทานยาระงับประสาทร่วมกับการรับประทานยานี้ เพราะอาจทำให้ง่วงนอนมากขึ้น
  • ในคนที่มีโรคประจำตัวต่อไปนี้ ไม่ควรใช้ยานี้ หากไม่ได้รับการแนะนำจากแพทย์หรือเภสัชกร ได้แก่ โรคหอบหืด โรคต้อหิน ปัสสาวะลำบากเนื่องจากต่อมลูกหมากโต
  • สำหรับเด็กอาจจะเกิดงงแงหงุดหงิด
  • ยานี้จะทำให้ท่านมีอาการง่วงซึมได้ ควรหลีกเลี่ยงการขับรถ หรือการทำงานเกี่ยวข้องกับเครื่องจักรหลังจากรับประทานยา
  • ยานี้อาจทำให้ตาแห้งและมองเห็นไม่ชัด ดั้งนั้น ผู้ที่สวมใส่คอนแทคเลนส์อาจรู้สึกไม่สบายตา โดยอาจใช้ยาหยอดตาที่ช่วยหล่อลื่นในตา
  • เนื่องจากมีผลิตภัณฑ์ยาสูตรผสมสำหรับแก้หวัด แก้ไอ ขับเสมหะ และแก้คัดจมูกจำนวนมากที่มียานี้ผสมอยู่ จึงต้องระมัดระวังถ้าจะใช้ร่วมกับยานี้ โดยต้องตรวจสอบก่อนว่าส่วนผสมในผลิตภัณฑ์เหล่านั้นซ้ำซ้อนกับยานี้หรือไม่ เพื่อป้องกันการได้รับยาเกินขนาด

หากท่านมีโรคดังต่อไปนี้ให้ปรึกษาแพทย์ว่าจะรับประทานยา chlorpheniramine ได้หรือไม่

  • ต้อหิน
  • แผลกระเพาะอาหาร
  • ท้องผูก
  • โรคไต
  • ต่อมลูกหมากโต
  • เป็นโรคต่อมไทรอยด์

ความปลอดภัยสำหรับคนตั้งครรภ์ จัดยาในกลุ่ม B เป็นยาที่ค่อนข้างปลอดภัยในคนท้อง แต่ยานี้ขับออกทางน้ำนมดังนั้นไม่ควรที่จะใช้ในมารดาที่เลี้ยงลูกด้วยนม

ข้อห้ามในการใช้ยา

ก่อนที่แพทย์จะจ่ายยาหากมีอาการดังต่อไปนี้ให้แจ้งแพทย์

  • มีโรคทางเดินหายใจเช่น ถุงลมโป่งพอง หลอดลมอักเสบเรื้อรัง
  • โรคต้อหิน
  • มีปัญเรื่องการปัสสาวะลำบาก

ความปลอดภัยของยานี้ในสตรีมีครรภ์

23 ธันวาคม 2559

ผู้ชม 6117 ครั้ง